[บทความพิเศษ] เราจะรอบรู้สร้างคอมพิวเตอร์ที่มีจิตสำนึกได้จริงๆ ในอนาคตใช่ไหมไม่ ??? เชื่อว่าเราๆ ท่านๆ คงจะได้เห็นหุ่นยนต์ที่มีความคิดเป็นของตัวเองกันมาอย่างมากมายจากใน ภาพยนตร์ครับ ไม่ว่าจะเป็น Skynet จาก Terminator ไม่ใช่หรือจะป๊าเดปป์จาก Transcendence ฯลฯ อีกมากมาย ซึ่งทำให้ใครหลายๆ คนอดคิดไม่ได้ครับว่าในอนาคตนั้นเราจะมีคอมพิวเตอร์ที่มีความรู้สึกนึกคิด เป็นของตัวเองใช่ไหมไม่ วันนี้เราจะมาไขคำตอบกันครับว่าเรื่องจากภาพยนตร์ Sci-Fi จักกลายมาเป็นความจริงได้อย่างไร
ก่อนที่เราจะไปเรียนรู้กันว่าคอมพิวเตอร์นั้นสมรรถที่จักมีความรู้สึกนึก คิดได้ใช่ไหมไม่นั้น สิ่งแรกที่เราต้องทำความรู้จักก่อนก็คือปัญญาประดิษฐ์เหรอ Artificial Intelligence ใช่ไหมเรียกสั้นๆ ว่า A.I. ครับ A.I. นั้นคือการพัฒนาโปรแกรมให้ระบบคอมพิวเตอร์มีพฤติกรรมให้เหมือนกับมนุษย์มาก ที่สุดเท่าที่จะทำได้
วิธีการที่จักทำให้คอมพิวเตอร์นั้นมีพฤติกรรมเหมือนกับมนุษย์นั้นเราจะจะทำ การเพิ่มความเก่งในการเรียนรู้กับความศักยทางประสาทสัมผัสให้กับเครื่อง คอมพิวเตอร์ก่อน ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นจะเลียนแบบมาจากรูปแบบการเรียนรูปพร้อมทั้งการปลงใจของ มนุษย์ครับ A.I. นั้นมีหลายสาขาครับอันประกอบไปด้วย
- Expert-System เหรอระบบผู้เชี่ยวชาญซึ่งเป็นระบบให้คำปรึกษาในการจัดการปัญหา โดยอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญของมนุษย์ที่ได้ใส่เอาไว้ในโปรแกรม
- Neural Network เหรอระบบจำลองคอมพิวเตอร์ให้เชี่ยวชาญทำงานเหมือนกับสมองของมนุษย์ได้(หรือไม่ก็อย่างน้อยก็จำลองให้เหมือนมากที่สุด)
- Genetic Algorithms ใช่ไหมปัญญาประดิษฐ์ที่เอาไว้ใช้เพราะการสร้างทางเเลื่องกจำนวนมาก รวมไปถึงตกลงใจเละบือกทางเเอิกเกริกกที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้เพราะด้วยปัญหานั้นๆ
- Natural Language Processing ไม่ใช่หรือการประมวลภาษาธรรมชาติ เป็นการโปรแกรมเพื่อให้คอมพิวเตอร์ศักยที่จักเข้าใจกับประมวลผลภาษา ธรรมชาติของมนุษย์ เช่นคำพูดหรือไม่ภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร ฯลฯ แล้วคอมพิวเตอร์รอบรู้ที่จักทำการโต้ตอบได้อย่างเหมาะสมกับภาษานั้นๆ
- Learning System หรือไม่ก็ระบบการเรียนรู้เป็นระบบที่สร้างขึ้นเพื่อให้คอมพิวเตอร์เก่งที่จักทำ การเรียนรู้ได้จากประสบการณ์(ตัวอย่างเช่นคอมพิวเตอร์อาจเรียนรู้ได้ว่า ขับฝ่าไฟแดงเป็นเรื่องผิด) หลังจากนั้นคอมพิวเตอร์อาจจะที่จะโต้ตอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่าง เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม(ตามสิ่งที่เรียนรู้มา)
- Vision System หรือไม่ระบบการมองเห็นเป็นระบบที่คอมพิวเตอร์อาจจะที่จักทำการบันทึกสิ่งที่มอง เห็น แล้วเก็บไว้ในหน่วยความจำในลักษณะของรูปภาพ ตัวอย่างเช่นระบบวิเคราะห์รอยนิ้วมือ(เทียบกับมนุษย์ก็คือความทรงจำในลักษณะ ที่เป็นรูปภาพ)
- Robotic หรือว่าหุ่นยนต์เป็นการพัฒนาเครื่องจักรกลหรือว่าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ให้ศักยทำ การเคลื่อนไหวได้เฉกเช่นเดียวกับมนุษย์ เพราะว่าการเคลื่อนไหวนั้นจะมีความแม่นยำเที่ยงตรงกว่ามนุษย์หลายเท่า(เนื่องแต่ หุ่นยนต์ไม่มีกล้ามเนื้อให้เกิดความเหนื่อยล้า)
การที่วิชาทางด้านปัญญาประดิษฐ์แยกตระกูลของปัญญาประดิษฐ์ไว้หลายๆ พรรณ ก็เนื่องมากจากการทำงานด้วยกันหลักของการเขียนโปรแกรมเพื่อปัญญาประดิษฐ์แต่ละ หมู่จักไม่เหมือนกันครับ ด้วยกันจากข้อมูลข้างต้นเราจะเห็นได้ว่าปัญญาประดิษฐ์นั้นถูกจำลองมาจากพฤติกรรม ของมนุษย์แทบทั้งสิน
ปัญหาที่ตามมาก็คือปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้จะอาจสู้กับพฤติกรรมด้วยกันความ รู้สึกนึกคิดของมนุษย์อย่างเราๆ ท่านๆ ได้หรือไม่ ให้ลองดูจากตารางดังต่อไปนี้ครับ
จากตารางท่านจักเห็นได้ครับว่าปัญญาประดิษฐ์นั้นไม่ได้มีความเป็นได้เหนือ มนุษย์ไปหมดทุกอย่าง สิ่งหนึ่งที่เป็นทั้งผลดีพร้อมกับผลร้ายในเวลาเดียวกันก็คือจิตใต้สำนึกเรื่องของ ความดีงามนั้นปัญญาประดิษฐ์ไม่มีเหมือนมนุษย์เราครับ ตัวอย่างเช่นเรื่องของการลักขโมย มนุษย์เราเท่าที่ต้องการจักได้ของอะไรสักอย่างที่อยู่ตรงหน้าแต่ว่าของชิ้นนั้นไม่ ใช่ของเรา ด้วยประสบการณ์ด้วยกันคำสั่งสอนรวมไปถึงความรู้ทางด้านกฎหมาย อาจจักทำให้เราใตร่ตรองพร้อมทั้งตัดสินใจไม่ทำการลักขโมยนั้น
ในทางกลับกันถ้าเป็นปัญญาประดิษฐ์แล้ว การตัดสินใจเเอิกเกริกกว่าจักขโมยหรือไม่ก็ไม่ขโมยนั้นมีปัจจัยหลายอย่างซึ่งขึ้นอยู่กับ ว่าปัญญาประดิษฐ์นั้นจักมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการลักขโมยในครั้งนั้นมาก แค่ไหน และคอมพิวเตอร์ก็จะเเลื่องกคำตอบที่ดีที่สุดที่อาจทำการประมวลผลออกมาได้ ซึ่งนั่นอาจจะหมายถึงการขโมยของชิ้นนั้น เป็นต้นครับ(เพราะว่ายังไม่มีกฎหมายที่ใดบนโลกนี้ที่เสนอว่าหุ่นยนต์ลักขโมยแล้ว มีความผิดเป็นต้น)
พอเรามองว่าหน่วยประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นเหมือนกับสมองที่ ใช้ในการปลงใจนั้น สิ่งนี้ก็ไม่ผิดมากนักครับ เพราะตั้งแต่เรามีเครื่องคอมพิวเตอร์มานั้น คอมพิวเตอร์ก็ได้เข้ามาทำงานทางด้านการตัดสินใจหลายๆ อย่างแทนมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับงานที่มีความละเอียดไม่ว่าจักเป็นงานทางด้านตัวเลข หรือว่างานทางด้านการประมวลผลข้อมูล
สิ่งหนึ่งที่คอมพิวเตอร์มีดีกว่ามนุษย์เราก็คือคอมพิวเตอร์ไม่รู้จักเหนื่อย ล้าครับ ซึ่งนั่นทำให้คอมพิวเตอร์ทำเป็นที่จักทำการประมวลผลได้ตลอดเวลาเลยที เดียว(ถ้าเครื่องไม่ร้อนจนไหม้ไปซะก่อน) แต่มนุษย์เรานั้นมีความเหนื่อยล้าจากปัจจัยหลายๆ อย่างเกิดขึ้นดังนั้นเราต้องมีการพักผ่อนครับ
คุณอาจจักประภาษว่าถ้าเรากลัวปัญญาประดิษฐ์ทำผิดก็ให้โปรแกรมไปด้วยว่าสิ่ง ไหนที่ปัญญาประดิษฐ์ทำแล้วจักผิด ซึ่งเรื่องนี้นั้นก็ได้มีการถกเถียงมากมายกันอย่างกว้างขวางครับ เพราะว่าแม้กระทั่งมนุษย์เองแล้วนั้น
การกระทำในเรื่องเดียวกันบางคนอาจจะคิดว่าสิ่งนี้ผิด ส่วนอีกคนอาจจักคิดว่าสิ่งนี้ไม่ผิดก็เป็นได้ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบดูภาพยนตร์ Sci-Fi บ่อยๆ แล้วหล่ะก็ คุณจักเห็นได้อย่างชัดเจนครับว่าเพราะว่าส่วนมากแล้วหุ่นยนต์ที่มีปัญญาประดิษฐ์ อยู่ด้วยนั้นจักปฏิบัติตามสิ่งที่จักทำให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด(ไม่ใช่หรือสิ่ง ที่ดีที่สุด) แม้แต่นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์เองก็มีความเห็นที่แตกต่างกันออกไปในเรื่อง นี้ครับ มีทั้งเสียงที่สนับสนุนพร้อมด้วยเสียงที่ไม่สนับสนุนครับ
นักวิทยาศาสตร์อย่าง Stephen Hawking นั้นเคยพูดว่าการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ในปัจจุบันนั้นยังไม่จำเป็นมากนัก ที่เราจักต้องใส่ใจในเรื่องของความกลัวเหมือนอย่างจอเงิน Sci-Fi แต่ในอนาคตถ้าเทคโนโลยีรุดหน้าไปมากขึ้นจนกระทั่งปัญญาประดิษฐ์ได้รับการ พัฒนาจนมีความศักยที่เท่าเทียมกับมนุษย์เราทั้งทางด้านกายภาพและทางด้าน ความคิด ทันทีที่นั้นปัญญาประดิษฐ์จักเก่งที่ทำการพัฒนาความรู้ความรอบรู้ของตัวเองต่อ ไปเหมือนมนุษย์ได้
ซึ่งจะทำให้การควบคุมปัญญาประดิษฐ์ที่อาจจะอยู่ในรูปแบบของหุ่นยนต์ไม่ก็ คอมพิวเตอร์นั้นยากขึ้น ท้ายที่สุดแล้วด้วยความอาจในการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ที่มีมากกว่า มนุษย์หลายเท่านักก็จักเอาชนะวิวัฒนาการของมนุษย์ที่ค่อยๆ พัฒนาไปอย่างช้าๆ ได้ครับ
สิ่งที่เราๆ ท่านๆ เคยเห็นในภาพยนตร์ Sci-Fi นั้นอาจจักเป็นแท้ขึ้นมาในอนาคตครับ เนื่องจากว่าวงการของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์นั้นก้าวไปเร็วมาก ในปัจจุบันเราเชี่ยวชาญที่จักทำให้คอมพิวเตอร์สมรรถที่จะพูดคุยติดต่อสื่อสาร กับเราได้อย่างรู้เรื่อง ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ไกลตัวที่ไหน
คุณลองมองไปที่สมาร์ทโฟนของคุณเองก็ได้ครับ ถ้าเป็น iOS ก็จะมี Siri ที่สามารถคุยกับเราได้ ส่วนระบบ Android ก็มี Google Now เพื่อ Windows Phone เองนั้นก็มี Cortana สิ่งต่างๆ เหล่านี้เหมือนอาจจะพึ่งเริ่มต้นต้นมาได้ไม่นานนักแต่ความเร็วในการพัฒนาของ ระบบต่างๆ เหล่านี้นั้นไปได้รวดเร็วกว่าที่เราๆ ท่านๆ คิดไว้มาก(ดูง่ายๆ ครับ iPhone พึ่งมีรุ่นที่ 6 ไปไม่นาน ก็ยังเก่งขนาดนี้) นี่ยังไม่รวมไปถึงเทคโนโลยีของหุ่นยนต์ที่นับวันจะมีการจำลองมาจากการ เคลื่อนไหวแน่แท้ๆ เข้าไปจนหุ่นยนต์เปิดม่านเคลื่อนไหวได้เหมือนกับมนุษย์เราแล้ว(แต่ดีกว่าตรงที่ ไม่รู้จักเหนื่อย)
แม้จักพูดไปแล้วขณะนี้มนุษย์ชาติก็เหมือนกับกำลังก้าวอยู่ในระดับทารก เพื่อที่จะสร้างระบบคอมพิวเตอร์ที่มีความรู้สึกนึกคิดได้เองครับ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนมากที่สุดก็คือเรื่องของ Google ที่ครั้นประมาณการ 2 ปีก่อนนี้ทาง Google ได้มีการพยายามทำโปรแกรมที่จักจัดเรียงรูปแบบของข้อมูลที่เหมือนๆ กัน
แต่ทว่าโปรแกรมนั้นต้องดูไฟล์วีดีโอบน Youtube เป็นล้านๆ ไฟล์ถึงจะสามารถระบุแมวได้ถูกต้องแค่ 70% ในขณะที่มนุษย์เรานั้นทำเป็นที่จักจำแนกได้เช่นการดูพ้นประสบการณ์ไม่กี้ ครั้งเท่านั้น ดังนั้นคงต้องใช้เวลาอีกนานครับกว่าที่คอมพิวเตอร์ที่มีปัญญาประดิษฐ์นั้นจะ เชี่ยวชาญมีจิตใต้สำนึกเองได้
หมายเหตุ - มีนักสังคมศาสตร์บางคนเอื้อนว่าเพราะปกตินั้นมนุษย์เองก็มีความสลับซับซ้อนใน พฤติกรรมอยู่มากมาย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่เราจะจำรองระบบที่มีแต่ถูกเหรอผิดให้สมรรถที่จัก ตัดสินใจหรือว่ามีความรู้สึกนึกคิดเหมือนมนุษย์ได้ครับ แต่ว่าในอนาคตนั้นอะไรก็เป็นไปได้ครับ