ส่วนอีกรุ่นที่น่าสนใจไม่พ่ายแพ้กัน นั่นก็คือ Samsung Galaxy Note5 ที่เริ่มก่อนหน้า iPhone 6S ไปแล้ว ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ที่ทะลุมา เพราะว่าจุดเด่นของ Samsung Galaxy Note 5 รุ่นนี้ ก็คือ บอดี้ตัวเครื่องแบบโลหะ พร้อมชูจุดเด่นด้วยหน้าจอความละเอียดระดับ Quad HD รวมไปถึงกล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ด้วยกันอาวุธคู่ใจที่ขาดไม่ได้ นั่นก็คือ ปากกา S Pen Stylus ที่ช่วยทำให้การใช้งานบนหน้าจอใหญ่ สะดวกขึ้นกว่าเดิม
มาดูกันว่า ถ้าต่างว่าเราเปรียบเทียบสเปค ระหว่าง iPhone 6S vs iPhone 6S Plus vs Samsung Galaxy Note 5 ทั้ง 3 รุ่นนี้ จักโดดเด่นและแตกต่างอย่างไรบ้าง
ดีไซน์พร้อมกับการออกแบบ
มาตั้งต้นกันที่การออกแบบของทั้ง 3 รุ่นกันก่อน เพราะว่าทั้ง iPhone 6S, iPhone 6S Plus ด้วยกัน Samsung Galaxy Note 5 มาพร้อมกับบอดี้แบบโลหะเหมือนกันทั้ง 3 รุ่น พร้อมทั้งเป็นอะลูมิเนียมเกรด 7000 เหมือนกันอีกด้วย แน่นอนว่า ในเรื่องของความแข็งแกร่ง, ทนทาน พร้อมด้วยพรีเมียม ทั้ง 3 รุ่นนี้ สูสีกันแบบเห็นๆ
ส่วนขนาดตัวเครื่อง ถึงแม้ว่า Samsung Galaxy Note 5 จักมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่กว่าถึง 5.7 นิ้ว แต่กลับมีน้ำหนักตัวเครื่อง เบากว่า iPhone 6S Plus ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้วเสียอีก แต่เรื่องความบางนั้น Samsung Galaxy Note5 หนากว่าเล็กน้อย
หน้าจอแสดงผล
เพราะด้วย Samsung Galaxy Note5 นอกจากจักมาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 5.7 นิ้วแล้ว ยังมาพร้อมกับความละเอียดระดับ QHD 2560 x 1440 พิกเซล อีกด้วย ในขณะที่ iPhone 6S Plus มาพร้อมกับหน้าจอความละเอียดระดับ Full HD 1080p เท่านั้น ทั้งๆ ที่ มือถือเรือธง ส่วนใหญ่ ขึ้นต้นใช้หน้าจอความละเอียดระดับ QHD กันหมดแล้ว ซึ่งในส่วนของการแสดงผล ถือว่า Samsung Galaxy Note 5 ค่อนข้างเหนือกว่า
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่า Samsung Galaxy Note 5 จักได้เปรียบในเรื่องของหน้าจอใหญ่ แต่ในเรื่องของการพกพา คงไม่รับไม่ได้ว่า มือถือหน้าจอเล็ก พกพาได้สะดวกมากกว่า แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความชอบด้วยครับ
หน่วยประมวลผล
iPhone 6S และ iPhone 6S Plus มาพร้อมกับชิปเซ็ต Apple A9 พร้อมกับ M9 ซึ่งยังไม่มีข้อมูลระบุอย่างแน่ชัดว่า ชิปเซ็ตรุ่นนี้ เป็นแบบ Dual-Core หรือไม่ก็ Quad-Core Processor กันแน่ รวมไปถึงข้อมูลในเรื่องของ หน่วยความจำ RAM ที่มีข่าวเอิกเกริกว่า อาจจะมาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB ซึ่งคงต้องรอการพิสูจน์จากทาง iFixit อีกทีหนึ่ง
ส่วน Samsung Galaxy Note 5 จัดเต็มด้วย หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core Processor (Exynos 7420 chipset) ความเร็ว 2.1 GHz พร้อมทั้งหน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB เรียกได้ว่า เร็วและแรงไม่พ่ายรุ่นใด แต่จะแรงกว่า iPhone 6S พร้อมด้วย iPhone 6S Plus เหรอไม่ คงต้องรอ Benchmark พิสูจน์กันต่อจากนั้น
กล้องถ่ายรูป
เรียกได้ว่า ในปีนี้ แอปเปิล ได้ยืดอกอย่างเต็มภาคภูมิแล้ว ก็เพราะว่า iPhone 6S พร้อมกับ iPhone 6S Plus มาพร้อมกับกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ทัดเทียมกับ มือถือเรือธง รุ่นอื่นๆ แต่ล้ำหน้ากว่าด้วยไฟแฟลชแบบ Retina Flash ซึ่งจุดเด่นนี้ น่าจะช่วยดึงให้คนกลับมาใช้ iPhone ได้ไม่ยาก รวมไปถึงกล้องด้านหลัง ที่ปรับความละเอียดเป็น 12 ล้านพิกเซลแล้ว อีกทั้ง ยังรองรับการถ่ายคลิปวีดีโอความละเอียดสูงสุดถึง 4K อีกด้วย
นอกเหนือจากไฟแฟลชแบบ Retina Flash กับปรับความละเอียดของกล้องถ่ายรูปทั้งด้านหน้า และด้านหลังแล้ว ยังได้เพิ่มโหมดการถ่ายรูปแบบ Live Photos ที่เปลี่ยนภาพนิ่งธรรมดาๆ ให้เคลื่อนไหวได้ สร้างลูกเล่นให้กับการถ่ายภาพได้อีกส่วนหนึ่ง
ส่วน Samsung Galaxy Note 5 ก็ไม่น้อยหน้า จัดเต็มทั้งกล้องด้านหน้าพร้อมทั้งด้านหลังเช่นกัน โดยกล้องด้านหน้า มาพร้อมกับความละเอียด 5 ล้านพิกเซล กับกล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9 ทั้งกล้องด้านหน้า พร้อมทั้งด้านหลัง เรียกได้ว่า หมดปัญสมมตารถ่ายรูปในที่แสงน้อยไปเลย เพราะรับประกันความคมชัดพร้อมทั้งสว่างสดใสแน่นอน รวมไปถึงลูกเล่นด้านการถ่ายภาพ Samsung Galaxy Note 5 มีมากกว่า iPhone 6S พร้อมทั้ง iPhone 6S Plus เสียอีก
การเชื่อมต่อ
ทั้ง iPhone 6S, iPhone 6S Plus กับ Samsung Galaxy Note 5 ต่างรองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.2, NFC, GPS + A-GPS + GLONASS เหมือนกัน ส่วนด้านการเชื่อมต่อเปลี่ยนสายเคเบิล Samsung Galaxy Note 5 ใช้พอร์ต microUSB 2.0 ในขณะที่ iPhone 6S กับ iPhone 6S Plus ใช้พอร์ต Lightning ซึ่งถ้าพูดถึงความสะดวกในการใช้ยามฉุกเฉิน ต้องแสดงว่า พอร์ตแบบ microUSB 2.0 สะดวกมากกว่า ตามที่มือถือหลายรุ่นต่างก็ใช้พอร์ตแบบนี้ ในขณะที่พอร์ตแบบ Lightning จะต้องเป็นผู้ใช้ iPhone 5 ขึ้นไปเท่านั้น จึงจักมีสายชาร์จแบบนี้
เซ็นเซอร์ต่างๆ
ทั้ง 3 รุ่น ต่างมาพร้อมกับเซ็นเซอร์พื้นฐานอย่าง Accelerometer Sensor, Gyro Sensor พร้อมด้วย Proximity Sensor อยู่แล้ว รวมไปถึงเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ บนปุ่ม Home อีกด้วย แต่สิ่งที่ Samsung Galaxy Note 5 เหนือกว่า ก็คือ มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ที่ด้านหลังตัวเครื่องอีกด้วย ในขณะที่ผู้ใช้ iPhone จะต้องวัดลอด Apple Watch แทน
iPhone 6S, iPhone 6S Plus กับ Samsung Galaxy Note 5 รุ่นไหน คุ้มค่ามากกว่ากัน?
คำถามนี้ คงเป็นเรื่องที่ตอบได้ยากสักหน่อย เนื่องจากว่าทั้ง 3 รุ่นก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ด้าน iPhone 6S กับ iPhone 6S Plus สเปคไม่ทิ้งห่างกันเท่าไหร่ เชื่อได้ว่า สาวกคงจะตกลงใจเละบือกเองได้ไม่ยาก โดยเฉพาะผู้ที่ยังใช้ iPhone รุ่นเก่าอยู่ อย่าง iPhone 4S, iPhone 5 หรือ iPhone 5S น่าจักได้เวลาเปลี่ยนมาใช้กันแล้ว หรือไม่ผู้ที่ใช้ iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus อยู่ก่อนแล้ว ก็มีแนวโน้มที่จักเปลี่ยนด้วยเช่นกัน เนื่องจากปรารถนาลองของใหม่อย่าง Force Touch พร้อมทั้ง 3D Touch
เพราะว่าจุดเด่นในแต่ละด้านระหว่าง iPhone6S / iPhone 6S Plus พร้อมกับ Samsung Galaxy Note 5 ทีมงานขอสรุปไว้เป็นข้อๆ ดังนี้
1. ด้านการแสดงผล
ต่างว่าวัดกันที่การแสดงผล คงจักตัดสินได้ไม่ยากว่า Samsung Galaxy Note 5 เหนือกว่าในด้านนี้ ดังที่มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล ที่มีความละเอียดสูงถึงระดับ QHD ในขณะที่ iPhone 6S Plus ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ระดับ Full HD เท่านั้น ซึ่งมือถือเรือธงส่วนใหญ่ จักมาพร้อมกับหน้าจอระดับ QHD กันหมดแล้ว
2. กล้องถ่ายรูป
Samsung Galaxy Note 5 เหนือกว่าในเรื่องของกล้องด้านหลัง ที่มาพร้อมกับความละเอียดถึง 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9 ตอบสนองต่อการใช้งานในที่แสงน้อยได้ดี อีกทั้งยังมีลูกเล่นพร้อมด้วยโหมดการ ถ่ายภาพยังมีให้เโจษกใช้มากกว่า ส่วน iPhone 6S / iPhone 6S Plus เหนือกว่าในเรื่องของกล้องด้านหน้า ที่ถึงแม้จักมาพร้อมกับความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เหมือนกับ Samsung Galaxy Note 5 แต่มีไฟแฟลชแบบ Retina Flash ในตัว ฉะนั้น ถ้าสมมติว่าใช้งานด้าน Selfie ถือว่า iPhone 6S / iPhone 6S Plus ดีกว่า
3. การประมวลผล
ถ้าสมมติมองในเรื่องฮาร์ดแวร์ ณ ชั่วโมงนี้ ต้องเผยว่า Samsung Galaxy Note 5 เหนือกว่า ดังที่มาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB และซีพียูแบบ Octa-Core Processor แต่ก็ยังสรุปไม่ได้ว่า จะประมวลผลได้เร็วกว่า iPhone 6S / iPhone 6S Plus ก็เพราะว่าต้องรอผลการลองเชิง Benchmark มายืนยันอีกครั้ง ด้วยเหตุที่ทั้ง 2 รุ่น ใช้ระบบปฏิบัติการที่ต่างกันนั่นเอง
4. เทคโนโลยีใหม่ๆ
iPhone 6S / iPhone 6S Plus ถือว่า เป็นรุ่นที่มีการอัปเกรดมากกว่า iPhone รุ่นอื่นๆ ก็เพราะว่านอกจากจักอัปเกรดทั้งชิปเซ็ต และกล้องถ่ายรูปแล้ว ยังได้เพิ่มเทคโนโลยีน้องใหม่แกะกล่องอย่าง Force Touch พร้อมทั้ง 3D Touch เพิ่มเข้ามา แต่ก็ต้องมองกันถัดไปยาวๆ ว่า เทคโนโลยีดังกล่าว จะมีความจำเป็นต่อการใช้งานมากแค่ไหน เช่นเดียวกับยุคที่ Apple โหมโรง Touch ID ที่หลายๆ คนมองว่า เป็นฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น แต่ ณ ปัจจุบัน Touch ID ไม่ก็การสแกนลายนิ้วมือ เป็นสิ่งจำเป็นต่อการใช้งานสมาร์ทโฟนไปเสียแล้ว
ส่วน Samsung Galaxy Note 5 มาพร้อมกับเทคโนโลยี UHQ Upscaler ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงของทั้ง เพลง และวีดีโอ ให้มีรายละเอียดดีขึ้น พร้อมด้วยคมชัดขึ้น ซึ่งทางเหล่างาน techmoblog ก็ได้ทำการพิสูจน์ในบทความรีวิวไปแล้วว่า เสียงคมชัดขึ้นกว่า Samsung Galaxy Note 4 ยิ่ง แต่เพราะว่าข้อนี้ คงต้องยกให้ iPhone 6S / iPhone 6S Plus เหนือกว่า เนื่องแต่เทคโนโลยี Force Touch ด้วยกัน 3D Touch ยังไม่เคยมี สมาร์ทโฟน รุ่นใดมีมาก่อนนั่นเอง
5. ราคา
ปิดท้ายด้วยด้านมูลค่ากันบ้าง Samsung Galaxy Note 5 เคาะราคามาแล้ว อยู่ที่ 25,900 บาท ส่วน iPhone 6S และ iPhone 6S Plus คงต้องลุ้นกันถัดจากว่า จักเคาะค่าโหมโรงมาสูงไม่ใช่หรือต่ำกว่านี้
ติดตาม ข่าวสารทางด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ที่: http://thaizones-hitech.blogspot.com/